15:34 น.
วันนี้ได้เกิดเหตุพันธมิตรฯ ใช้อาวุธปืนยิงรถถ่ายทอดสัญญาณสถานีโทรทัศน์ข่าวทีเอ็นเอ็น ของสถานีเคเบิลทีวี ยูบีซี ทรูวิชชั่น โดยนายภานุมาศ ใจหอก เจ้าหน้าที่อุปกรณ์สัญญาณไมโครเวฟและพนักงานขับรถคันเกิดเหตุ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุพร้อมเพื่อนร่วมงานอีก 1 คน ขับรถยนต์กระบะติดสติกเกอร์ยูบีซี และโลโก้สำนักข่าวทีเอ็นเอ็น หลังคาติดตั้งจานส่งสัญญาณไมโครเวฟ หลงทางอยู่ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ จึงจอดรถที่จุดตรวจกลุ่มพันธมิตรฯ บริเวณทางขึ้นทางยกระดับเข้าสู่อาคารผู้โดยสาร เพื่อสอบถามทาง ขณะเดียวกันเกิดเสียงระเบิดขึ้น จากนั้นการ์ดพันธมิตรฯ รีบไล่ให้ขึ้นรถเพื่อขับเข้าไปยังอาคารผู้โดยสาร แต่เมื่อมาถึงจุดตรวจที่ 2 ปรากฏว่าเกิดเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด จึงรีบขับรถหนีกระทั่งถึงอาคารผู้โดยสาร เมื่อลงไปตรวจสอบพบรอยกระสุนปืนที่บริเวณ ฝากระบะท้ายรถ มุมประตูท้ายรถ และหลังคารถ โชคดีที่ไม่มีผู้รับบาดเจ็บ
ต่อมานายอมร อมรรัตนานนท์ หนึ่งในแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ มาขอโทษพร้อมแจ้งว่า เป็นการเข้าใจผิดของการ์ดในจุดตรวจที่ 2 เนื่องจากหลังเกิดเสียงระเบิดขึ้นที่จุดตรวจที่ 1 รถยนต์คันดังกล่าววิ่งฝ่ามาด้วยความเร็วคิดว่าเป็นรถของผู้มาโยนระเบิดก่อกวน จึงยิงสวนไปเพื่อสกัดรถ
ด้าน นายณัฐวุฒิ กรัณยโสภณ ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์บ้านเมือง ที่ถูกผู้ร่วมชุมนุม 2 ราย บังคับให้ถอดเสื้อ "ยุติความรุนแรง" กล่าวว่า รู้สึกงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเป็นเสื้อที่สมาคมนักข่าวฯ ให้สวมเพื่อรณรงค์ให้ทุกฝ่ายยุติความรุนแรง และสวมไปทำข่าวพันธมิตรภายในทำเนียบรัฐบาลตลอดเวลา ไม่เคยมีใครมาบังคับให้ถอดออก แต่ไม่รู้สึกหวาดกลัวอะไร ยืนยันว่าจะทำหน้าที่รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดตามความเป็นจริงต่อไป เพราะเป็นหน้าที่ของสื่อสารมวลชน อย่างไรก็ตามตนไม่ต้องการให้เกิดความวุ่นวายมากขึ้นไปอีก จึงยอมเลี่ยนเสื้อสีอื่นมาสวมแทน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิมเติมว่า แม้แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ จัดพื้นที่เฉพาะให้สื่อมวลชน แต่ยังมีผู้ชุมนุมจำนวนมากเดินตามมามุงดูและถ่ายภาพการทำงานของสื่อมวลชนทั้งหมดตลอดเวลา ทั้งยังมีการ์ดพันธมิตรฯ หลายกลุ่มเข้ามาสอบถามตลอดเวลา กระทั่งนายศรัญยู ที่ยืนคุยกับผู้สื่อข่าวในบริเวณดังกล่าวต้องให้การ์ดประจำตัวไปแจ้งให้ผู้ที่ชุมนุมอยู่แยกย้ายกันไป
นอกจากนี้เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา มีผู้สื่อข่าวสตรีสำนักข่าวแห่งหนึ่งถูกกลุ่มผู้ชุมนุมล้อมกรอบข่มขู่ให้ถอดเสื้อขาวปักข้อความ “ยุติความรุนแรง” ออกเช่นกัน และยังมีคนตามประกบพร้อมภ่ายภาพสื่อมวลชนทุกคนที่อยู่ในสนามบินสุวรรณภูมิ เหมือพยายามสร้างแรงกดดันให้สื่อมวลชนต้องรายงานเฉพาะข่าวด้านดีของการชุมนุมเพียงอย่างเดียว เป็นเหตุให้สื่อมวลชนทั้งหมดต้องคอยดูแลกันเป็นพิเศษ และรวมกลุ่มกันไว้ตลอดเวลา